1. เอาแต่โท ษคนอื่นอยู่เสมอ
สำหรับคนที่เมื่อเกิ ดเรื่องผิ ด พล าดก็มักจะโท ษ
คนอื่นนอกจากตัวเองไว้ก่อนยกตัวอย่ างเช่ นโท ษดินฟ้าอากาศ โท ษคนรอบข้างหรือแม้แต่พ่อแม่
ว่าเป็นต้นเหตุของทุกความล้ ม เ หล วในชีวิตเร าขอให้ลองทบทวนและปรับทัศนคติให ม่เร าอาจนึกเสี ย
ใจกับเรื่องที่ผิ ด พล าดได้แต่ถึงจะโท ษคนอื่นๆไปก็ไม่เกิ ดประโยช น์อะไรขึ้นมา
2. ยึดติดกับความฝันอันเลื่อนลอย
ใครๆก็มีความฝันแต่มีบ างคนที่ใช้ชีวิตอิงอยู่กับความเเพ้อฝันจนหลงลืมมองความ
เป็นจริงทำให้เขาติดอยู่ในกับดักแห่ง จิ น ต น าการ จนไม่คิดจะ
พ ย าย ามอย่ างเอาจริงเอาจังหน้ามื ด ตามั ว จนลืมมองความเป็นไปได้
3. วอกแวกไปสนอย่ างอื่นจนลืมเป้าหมาย
เคยมั้ยที่บอกกับตัวเองว่าเดี๋ ยวเ ช็ ค f a c e b o o k
แปปนึงแล้วค่อยกลับไปทำงานแล้วกันนะหลายคนสัญญากับตัวเองแบบนี้ก่อนจะจมหายไปกับ
การท่องโลกโ ซเชี ย ลหลายคนย าวถึงเช้าไปเลยก็มีนี่เป็นอีกหนึ่งข้อเสี ย
ของเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับความเพลิดเพลินใจในการไถมือถือเพร าะผลลัพธ์ของมันก็คืองานที่ควรจะเสร็จก็ไม่เสร็จสักอย่ าง
4. โยนความรับผิ ดชอบให้คนอื่น
ถึงทุกความผิ ด พล าด ที่เกิ ดขึ้นในชีวิตจะไม่ใช่ความผิ ด
เร าทั้งหมดแต่หากมันเกี่ยวข้องกับเร าเร าก็ต้องยอมรับว่าตัวเองมีส่วนในการรับผิดชอบ
ด้วยการโยนความรับผิ ดชอบให้คนอื่นไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ต่างๆ คลิ่คล าย
ในทางกลับกันหากคุณยอมรับความผิ ด และเปลี่ยนแปลงบ างสิ่งด้วยตัวเองจิตสำนึกในความรับผิ ดชอบนี้
จะชักจูงชีวิตคุณไปยังทิศทางที่ดีขึ้น
5. ข าดแ รงจูงใจและความพย าย าม
เชื่ อว่าบ างครั้ง หรือหลายๆ ครั้งคุณเองก็เคยเป็นแบบนี้ตั้งเป้าไว้ดิ บ ดี
วันนี้จะไปเข้ายิ มพรุ่งนี้เริ่มไ ด เ อ ท แต่ทำๆ ไปได้ประมาณอาทิตย์หรือเดือนกว่าๆ
ก็เลิ กซะแล้วที่มันเป็นซะอย่ างนี้ก็เพร าะเร าไม่มีความมุ่งมั่นและความต้องการที่จะทำมากพอนั่นเอง