กับบทความ 6 เรื่องควรรู้ ไ ม่ควรทำในเวลาช าร์จมือถือ
ไปดูกันว่าไ ม่ควรทำเรื่องอะไรบ้ าง เพื่อความปลอ ดภั ยของเพื่อนๆ และท รั พ ย์สินของเพื่อนๆ เอง
1 เร าควรจะปล่อยให้ พลังงานแบตเตอรี่เหลือเกิน 50% จะดีที่สุด
แต่เนื่องจากทุกคน ไ ม่สามารถทำต ามได้ ที่ดีที่สุดก็คือมีเวลา
ก็หยิบสายออ กมาช าร์จกันได้แล้ว และควรจะช าร์จให้อยู่ที่ระ ดั บ 90%
2 ปัจจัยหลักที่จะบ่งบอ กได้ว่า แบตเตอรี่จะใช้ได้ ย า ว น า น หรือ เ สื่ อ ม เร็วขึ้นกว่าเดิม
สำหรับแท็บเล็ต หรือ สมาร์ทโฟน นั้ น ควรจะปล่อย ให้พลังงานแบตเตอรี่ เหลือเกิน 50%
จะดีที่สุด ยิ่งเร าปล่อย ให้แบตเตอรี่เหลือ 0% บ่อย ยิ่งทำให้แบตเตอรี่ เ สื่ อ ม เร็วมากขึ้นเท่านั้น
3 อ ย่ า พ ย า ย า ม ช าร์จจนเต็ม 100% เพราะนั่นก็คือเป็นสาเห ตุที่ทำให้
แบตเตอรี่ค่อย เ สื่ อ ม อายุลง ฉะนั้น ถ้าหากแบตเตอรี่ลดลงถึงระ ดั บ 40%
ก็ควรจะหยิบ สายออ กมาช าร์จกันได้แล้ว และควรจะช าร์จให้อยู่ที่ระ ดั บ 90%
4 อ ย่ า เสียบช าร์จทิ้ งไว้ทั้งคืน หรือ ถ้าต้องการช าร์จ ให้เต็ม 100% ควรจะทำ เดือนละหนก็พอ
5 เมื่อช าร์จแบตเต็มแล้วก็ควรรีบถอ ดที่ช าร์จออ ก เนื่องจากสถานะการช าร์จแบตเต็มนั้น
ก็เหมือนกับกล้าม เ นื้ อ ของเราที่กำลังตึง เ ค รี ย ด
อยู่ การที่เราถอ ดที่ช าร์จ ออ กจะช่วย ทำให้แบตเตอรี่ ผ่อนคล า ย และไ ม่มีแ รงดันสูง
6 อ ย่ า ปล่อยให้มือถือร้อนเกินไป ถ้าคุณรู้สึกว่ามือถือ ของคุณร้อน มาก
เวลาช าร์จแบตให้ถอ ดเคส ออ กจะดีกว่า เพื่อให้มือถือสามารถระบ าย
ความร้อนได้และควรหลีก เ ลี่ ย ง ไ ม่ให้มือถือไปโดนแสงแดด
สิ่งสำคัญที่นอ กเหนือ จากวิธีปฏิบัติที่จะช่วย รั ก ษ า อายุการใช้งานแบตเตอรี่โทรศัพท์ให้ ย า ว นานขึ้นแล้ว
การเลือ ก ใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงที่ได้คุณภาพ และมีมาตรฐานรับรอง ก็เป็นอีกส่วนสำคัญ ที่จะทำให้คุณ ป ล อ ด ภั ย
จากการช าร์จแบตโทรศัพท์ได้ ไม่ว่าจะเป็นสายช าร์จแบตโทรศัพท์ หรือพาวเวอร์แบงค์
ที่เป็นอุปกรณ์เสริมก็ต าม เพราะการใช้โทรศัพท์ให้ ย า ว นานนั้น
ไ ม่ได้มาจากการ รั ก ษ า เครื่องไม่ให้ตก หรือใส่เคสที่แข็งแรงเพียง อ ย่ า ง เ ดี ย ว
แ ต่ การดูแลแบตเตอรี่ก็เป็นอีกสิ่ง ที่คุณไ ม่ควรมองข้าม