1. สต าร์ทเครื่องก่อนเปิ ดแอร์
ก่อนที่เร าจะทำการสต าร์ทเครื่องยนต์ในทุกๆครั้ง ควรทำการปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ ( A/C)
ก่อน เพื่อที่จะให้คอมเพรสเซอร์ เป็นตัวฉุดกำลังของไฟฟ้าในขณะที่เร าจะสตาร์ทรถยนต์นั่นเอง
เมื่อเครื่องยนต์ติดก็อย่ างพึ่งรีบเปิ ดแอร์ ควรปล่อยให้เครื่องยนต์มีอุณภูมิเพิ่มขึ้นสักนิดก่อน
เพื่อรักษาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ให้ถูกกระชากในขณะที่รอบเครื่องยนต์สูง พอรอบเริ่มต่ำลงท่านสามารถเปิ ดแอร์รถยนต์ได้ตามปกติ
2. เปิ ดการใช้ความเร็วพัดลมสูง
หลังจากที่เร าทำการสตาร์ทแล้วเครื่องยนต์ที่อยู่ในอุณหภูมิพร้อมใช้งาน อย่ าเพิ่งรีบปรับอุณหภูมิ
แต่ควรทำการเปิ ดแอร์โดยใช้ความเร็วของพัดลมเสริมก่อน เพื่อเป็นการไล่ความร้อนในระบบแอร์ออกไป
โดยหลังจากนั้นเร าจึงค่อยทำการปิดสวิตช์ A/C ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
3. ปรับอุณหภูมิสูงขึ้น แทนการปัดช่องแอร์หนี
ถ้าหากนั่งไปสักพักแล้วรู้สึกว่าอุณหภูมิเย็นเกินไป อย่ ารีบหันช่องแอร์หนีไปจากตัว ให้ทำการปรับอุณหภูมิให้สูง
แต่ให้ใช้วิธีปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นแทน คอมเพรสเซอร์จะได้ไม่ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น
4. ปิดแอร์ก่อนถึงปล ายทาง
ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางประมาณสัก 5–10นาที ให้ปิดสวิตซ์ A/C
และเปิ ดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุดแทน วิธีนี้จะช่วยลดภาระการทำงานของคอมเพรสเซอร์
และไล่ความชื้นออกจากคอล์ยเย็น ในขณะที่เร าเปิ ดแอร์มาตลอดทาง
แผงทำความเย็นที่เป็นตัวสร้ างความเย็นจะมีความชื้นอยู่ตลอดเวลาซึ่งก็จะมีทั้งไอน้ำและฝุ่นผงที่ห
ลุดผ่านเข้าและเมื่อเร าปิดแอร์ทันทีในขณะที่มีความชื้นพร้อมกับฝุ่นผงเมื่อเป็นแบบนี้ทุกวันเข้า ก็
จะก่อให้เกิ ดการสะสมของคร าบสกปรกหมักหมม และในที่สุดก็จะเกิ ดกลิ่นเหม็น
5. ไม่ควรใช้น้ำหอมชนิดที่มีแอลกอฮอล์
ไม่ควรนำน้ำหอมชนิดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบมาเสียบไว้หน้าช่องแอร์
เพร าะนั้นอาจจะทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้นกว่าเดิมได้ หากอย ากใช้ให้หาน้ำหอมสำหรับรถโดยเฉพาะเท่านั้น
6. ไล่ความร้อนออกก่อน เย็นเร็วขึ้น
สำหรับรถที่จอดตากแดดเอาไว้นานๆ หรือรถที่กำลังจะจอดทิ้งไว้นานๆ
ควรเปิ ดลมเปล่าระดับแรงสุดเสียโดยยังไม่เปิ ดสวิตซ์ A/C ก่อน ประมาณ 5 นาที
ขั้นตอนนี้จะช่วยไล่ความร้อนหรือความชื้นที่ค้างอยู่ในระบบแอร์ได้ เมื่อความร้อนหรือความชื้นลดลงแล้ว
จึงค่อยเปิ ดสวิตซ์ A/C ตามมาทีหลัง นอกจากจะช่วยชะลอการเสื่อมของเครื่องได้แล้ว
ยังทำให้ตู้แอร์มีกลิ่นเหม็นอับลดน้อยลงได้ด้วย
7. ไม่เปิ ดกระจกรถ หากไม่จำเป็น
การที่เร าเปิ ดปิดกระจกอยู่บ่อยครั้ง ไม่เพียงแต่จะนำความร้อนเข้ามาตัวรถ
แต่ยังจะทำให้สิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้ามาอุดตันในเครื่องแอร์ได้เร็วมากขึ้น
จะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระให้แอร์ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น จากความร้อนภายนอกรถที่มีมากกว่า
และทำให้ความเย็นภายในรถไหลออกไปด้านนอกอีกด้วย
8. ถ้าแอร์ไม่เย็น ควรเช็ก!
หากตัวเร ามีความรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็น ให้รีบปิดน้ำย าแอร์หรือสวิตซ์ A/C ในทันทีโดยยังสามารถใช้พัดลมเป่าได้อยู่
ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย
จากนั้นจึงนำรถไปตรวจเช็คความผิดปกติของเครื่องแอร์ อาจจะเป็นอาการแอร์ตัน